พิชัย เคาะตั้งทีมปราบสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย ลุยตรวจสอบทั่วประเทศ
พิชัย เคาะตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย มอบ 'จักรา' รองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ลุยตรวจสอบมาตรฐานสินค้า และธุรกิจนอมินีทั่วประเทศ เพื่อให้การปราบปรามทำได้เข้มข้นมากขึ้น พร้อมดึง กขค. ร่วมใช้อำนาจตามกฎหมายปราบปราม และอนุมัติชงของบกลางให้ อย.ตั้งห้องแลปเพิ่ม ให้ สคบ.และ สมอ. เพิ่มศักยภาพตรวจสินค้านำเข้า โชว์ผลงานเก็บ VAT พุ่ง 1,500 ล้าน นำเข้าสินค้าออนไลน์ลดเดือนละ 3,645 ล้าน กวาดล้างนอมินี 851 ราย เสียหาย 3,645 ล้าน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ร่วมกับ 17 หน่วยงานภาครัฐ ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย
โดยมี ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าทีม ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การจดทะเบียนธุรกิจ และธุรกิจนอมินีทั่วประเทศ เพื่อทำให้ความเข้มข้นของการปราบปรามดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ได้เห็นชอบให้ขยายความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ในการนำกฎหมายมาบังคับใช้เพื่อป้องกันสินค้าต่างชาติที่ทะลักเข้ามาจนกระทบผู้ประกอบการไทย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการมีอำนาจเหนือตลาด และการร่วมกันกำหนดราคาสินค้า และเห็นชอบการขอรับการจัดสรรงบกลางตามคำขอของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการด่านอาหารและยา
ณ ท่าเรือแหลมฉบังและด่านเชียงของ 101.7 ล้านบาท และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อเพิ่มศักยภาพการตรวจสอบและเฝ้าระวังการขายสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ 1.8 ล้านบาท รวมถึงให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) อีก 5.4 แสนบาท
ขณะเดียวกัน ได้รับทราบผลดำเนินการของ 2 คณะอนุกรรมการ ได้แก่ คณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SME ไทย และแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ กับคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว
โดยมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ได้ 1,500 ล้านบาท จากสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท และดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมาย 24,626 คดี มูลค่าความเสียหาย 1,257 ล้านบาท และลดการนำเข้าสินค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ ลง 8% เฉลี่ยเดือนละ 3,645 ล้านบาท และกวาดล้างธุรกิจนอมินี 851 ราย มูลค่าความเสียหาย 15,121 ล้านบาท
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายมี 2 หน้าที่หลัก คือ การควบคุมสินค้านำเข้า และการตรวจสอบธุรกิจนอมินีของคนต่างด้าว
โดยจะดำเนินการควบคุมสินค้านำเข้า เพิ่มการตรวจสอบสินค้าที่เข้าสู่ประเทศไทยจากเดิม 20% เป็น 30% ตรวจสอบแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น อย. และ มอก. และสินค้าคุณภาพต่ำ ส่วนสินค้าที่ไม่ได้ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่กระจายอยู่ในตลาดทั่วไป ก็ต้องเพิ่มการตรวจสอบออฟไลน์ให้ครอบคลุม
ส่วนการตรวจสอบธุรกิจนอมินีของคนต่างด้าว จะเน้นตรวจสอบเอกสารการถือหุ้นและรูปแบบการดำเนินธุรกิจของชาวต่างชาติ ที่บางกรณีพบว่าธุรกิจของชาวต่างชาติอาจจดทะเบียนในชื่อคนไทยทั้งหมด ทำให้ตรวจสอบได้ยาก และบางธุรกิจจดทะเบียนในจังหวัดหนึ่ง แต่ดำเนินการจริงในอีกจังหวัด ซึ่งต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยคณะทำงานชุดนี้ จะต้องลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งสินค้านำเข้าและธุรกิจนอมินีควบคู่กัน โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เพื่อให้การตรวจสอบครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด