กรมพัฒน์มั่นใจบริการออนไลน์ 100% สำเร็จกลางปี 68 เร็วกว่าเป้าที่ตั้งไว้ปี 70
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยการมุ่งสู่เป้าหมายเป็นองค์กรดิจิทัล 100% ทำได้เร็วเกินกว่าที่ตั้งไว้ภายในปี 70 คาดสำเร็จลุล่วงกลางปี 68 นี้ หลังงานบริการทางอิเล็กทรอนิกส์สุดท้าย ระบบการอนุญาตให้จัดตั้งหอการค้าและสมาคมการค้า จะเปิดให้บริการได้ช่วงกลางปี 68
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ดำเนินการเดินหน้าสู่งเป้าหมายการเป็นองค์กรดิจิทัล โดยจะเปิดให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการแบบ 100% เร็วกว่ากำหนดเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ภายในปี 2570 และมั่นใจว่าจะทำได้สำเร็จภายในกลางปี 2568 ที่จะถึงนี้ เพราะขณะนี้เหลือเพียงระบบการอนุญาตให้จัดตั้งหอการค้าและสมาคมการค้า ซึ่งเป็นงานบริการประเภทสุดท้ายที่กรมกำลังจะเปิดให้บริการออนไลน์
โดยล่าสุดกรมได้เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาตจัดตั้งหอการค้า พ.ศ. ... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาตจัดตั้งสมาคมการค้า พ.ศ. ... ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา และครม. ได้มีมติเห็นชอบในหลักการของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเป็นลำดับถัดไปแล้ว
สำหรับ ร่างกฎกระทรวงที่แก้ไขนี้ มี 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ยกเลิกการเรียกสำเนาทะเบียนบ้านจากผู้เริ่มก่อการจัดตั้งหอการค้าและสมาคมการค้า 2.การกำหนดช่องทางยื่นคำขออนุญาตจัดตั้งหอการค้าและสมาคมการค้าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ จากเดิมสามารถจดทะเบียนได้ผ่านช่องทาง Walk in เท่านั้น 3.กำหนดให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งหอการค้าและสมาคมการค้าสามารถลงลายมือชื่อต่อหน้าบุคคลที่น่าเชื่อถือ เช่น พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือข้าราชการพลเรือนระดับปฏิบัติการซึ่งมีอายุงานตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป เป็นต้น โดยไม่ต้องลงลายมือชื่อต่อหน้านายทะเบียน
ทั้งนี้ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเสร็จแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามในกฎกระทรวง และนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลใช้บังคับต่อไป ซึ่งกรมคาดว่าเมื่อเสร็จกระบวนการทางกฎหมายแล้ว จะสามารถเปิดให้บริการระบบจดทะเบียนหอการค้าและสมาคมการค้าออนไลน์ได้ประมาณกลางปี 2568 นี้
“การปรับปรุงร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จะช่วยให้กฎหมายของไทยมีความทันสมัย สอดรับกับการให้บริการของกรม และหน่วยงานภาครัฐในปัจจุบันที่นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ลดบทบาทของภาครัฐในการเป็นผู้ควบคุมธุรกิจให้กลายเป็นผู้ส่งเสริม โดยเฉพาะผู้ประกอบวิสาหกิจจะสามารถรวมกลุ่มกันเพื่อจัดตั้งเป็นหอการค้าและสมาคมการค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ประกอบกับลดภาระค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนในการดำเนินการให้แก่ผู้เริ่มก่อการ รวมถึงสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบวิสาหกิจให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว”นางอรมนกล่าว