พาณิชย์ หนุนองค์การสวนสัตว์ฯ พัฒนาคาแรกเตอร์ จดเครื่องหมายการค้า`หมูเด้ง`
กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับมือองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วางแนวทางการคุ้มครองและบริหารสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา’หมูเด้ง’ และสัตว์อื่นๆ เตรียมพัฒนาคาแรกเตอร์ และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ต่อยอดเป็น Soft Power ที่ทรงพลัง และสามารถใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เพิ่มรายได้ให้สวนสัตว์
น.ส.นุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้หารือกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อวางแนวทางในการปกป้องคุ้มครองและบริหารสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
โดยเฉพาะการพัฒนาคาแรกเตอร์ ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปโปเตมัสแคระชื่อดัง ให้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับหมูเด้ง รวมถึงสัตว์อื่น ๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยองค์การสวนสัตว์ฯ ให้สามารถต่อยอดเป็น Soft Power ที่ทรงพลัง และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้วยทรัพย์สินทางปัญญา
ทั้งนี้ การพัฒนาคาแรกเตอร์ และเครื่องหมายการค้าหมูเด้ง จะสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ได้ เช่น ของที่ระลึก สื่อสร้างสรรค์ และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยและสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในระดับสากล
“การผลักดันหมูเด้ง และทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศ แต่ยังช่วยเปิดประตูให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน Creative Content บนเวทีโลก และทำให้เห็นถึงศักยภาพของคอนเทนต์ไทย ที่สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบที่ดึงดูดใจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอิทธิพลเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับโลก และยังมีศักยภาพที่จะสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในตลาดโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ”น.ส.นุสรากล่าว
นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยยกระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ เช่น หมูเด้ง แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์หายากและเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจ ผ่านผลิตภัณฑ์และกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ซึ่งนอกจากจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ยังสร้างรายได้กลับคืนสู่ประเทศในหลายมิติ
“การนำหมูเด้งและสัตว์อื่นๆ มาพัฒนาคาแรกเตอร์ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ จะช่วยสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้าน Soft Power ผ่านการผสมผสานทรัพย์สินทางปัญญา วัฒนธรรม และนวัตกรรมเข้าด้วยกัน โดยรายได้จากการดำเนินงานดังกล่าว จะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่จะทำให้สัตว์ป่ามีชีวิตที่ดีขึ้น”นายอรรถพรกล่าว