HFT มั่นใจรายได้ปี 67 โตเข้าเป้า 15% ออเดอร์ยุโรป-อเมริกาแน่น ดันยอดขายพุ่ง หนุนสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ แตะ 60%
บมจ. ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT) ตอกย้ำความเชื่อมั่นผลงานปี 67 โตแกร่ง 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ รับอานิสงส์คำสั่งซื้อยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยานและรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดอเมริกาและยุโรป ฟากผู้บริหาร ‘จวง จื้อ เหยา’ เดินหน้าแผนขยายตลาดเชิงรุก ดันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 60% จากเดิม 50% ลุยเดินเครื่องผลิตเครื่องจักรใหม่และติดตั้งแผงโซลาร์ฟาร์ม เพื่อลดต้นทุนการผลิต รองรับการเติบโตในอนาคต
นายจวง จื้อ เหยา Vice President บริษัท ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (HFT) ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถขนส่งขนาดเล็ก เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2567 มีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเติบโต 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ปัจจัยหลักมาจากคำสั่งซื้อยางนอก-ยางในรถจักรยาน และยางนอก-ยางในรถจักรยานยนต์จากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าในอเมริกาและยุโรปซึ่งเป็นตลาดศักยภาพสูง ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงแผนกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งในการขยายตลาดต่างประเทศ ทั้งในแง่การเพิ่มฐานลูกค้าและการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทฯ มีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 60% จากสัดส่วนปัจจุบันที่ 50% เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
“บริษัทฯ มั่นใจว่าการเติบโตในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 220.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งใกล้เคียงกำไรทั้งปี 2566 ที่ 249.87 ล้านบาท แม้อัตราเงินแลกเปลี่ยนจะมีความผันผวน แต่ด้วยการจัดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีการประเมินติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงเชื่อว่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงนี้ได้โดยไม่กระทบผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ” นายจวง จื้อ เหยา กล่าวในที่สุด
สำหรับแนวโน้มในปี 2568 คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสนับสนุนมาจากการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม การเพิ่มสินค้าเกรดพรีเมียม และการบริหารจัดการต้นทุนอย่าง มีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนในเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตอย่างยั่งยืน และติดตั้งแผงโซลาร์ฟาร์มเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงงาน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าประมาณ 20 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 20% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งให้ความสำคัญคุณภาพของสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค ได้อย่างตรงจุดและครอบคลุมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
12661