ดัชนี ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค.68 เชื่อมั่น 5 เดือนติด สะท้อนมองเศรษฐกิจไทยดี
พาณิชย์ เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือน ม.ค.68 อยู่ที่ระดับ 51.5 เป็นระดับเชื่อมั่นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนประชาชนมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย เหตุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ผล ทั้งแจกเงินหมื่นผู้สูงอายุ ช้อปลดหย่อนภาษี ลดค่าไฟ การกระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งออกขยายตัว มองอนาคตยังเชื่อมั่น แต่ต้องจับตาหนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจโลกชะลอ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายทรัมป์ 2.0
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือน ม.ค.2568 จากความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 5,686 ราย ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 51.5 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 51.6 ในเดือนก่อนหน้า โดยค่าที่มากกว่าระดับ 50 ถือว่าอยู่ในช่วงเชื่อมั่น และเป็นการเชื่อมั่นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนว่าประชาชนมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย
สำหรับ ปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนียังคงอยู่ในช่วงเชื่อมั่น เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และที่จะทยอยประกาศใช้ อาทิ มอบเงิน 1 หมื่นบาทสำหรับผู้สูงอายุ ช้อปลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt 2.0) และลดค่ากระแสไฟฟ้า เป็นต้น มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ อาทิ มาตรการยกเว้นวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว ทำงาน หรือการติดต่อธุรกิจระยะสั้น ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มธุรกิจบริการ และภาคการส่งออกที่ยังเติบโตได้ดีในหลายตลาดส่งออกสำคัญ
ทั้งนี้ หากเจาะลึกปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค พบว่า ด้านเศรษฐกิจไทยส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุด คิดเป็น 47.43% รองลงมา คือ มาตรการของภาครัฐ 15.34% สังคม ความมั่นคง 8.48% ราคาสินค้าเกษตร 7.56% เศรษฐกิจโลก 6.95% การเมือง 5.33% ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 4.24% ภัยพิบัติ โรคระบาด 3.04% และอื่น ๆ 1.63% ตามลำดับ
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จำแนกรายภูมิภาค จำนวน 5 ภูมิภาค พบว่า ดัชนีอยู่ในช่วงเชื่อมั่น 2 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 54.9 และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 52.7 โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย มาตรการของภาครัฐ และสังคม ความมั่นคง ขณะที่ภาคกลาง อยู่ที่ระดับ 49.7 และภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 49.4 แม้ดัชนีจะต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สำหรับภาคเหนือ ดัชนีอยู่ที่ระดับ 49.5 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า
ทางด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจำแนกรายอาชีพ จำนวน 7 อาชีพ พบว่า ดัชนีอยู่ในช่วงเชื่อมั่น 5 อาชีพ ได้แก่ พนักงานของรัฐ อยู่ที่ระดับ 55.7 นักศึกษา อยู่ที่ระดับ 53.5 ผู้ประกอบการ อยู่ที่ระดับ 52.9 เกษตรกร อยู่ที่ระดับ 51.5 และพนักงานเอกชน อยู่ที่ระดับ 50.1 ยกเว้น อาชีพรับจ้างอิสระ อยู่ที่ระดับ 49.3 และไม่ได้ทำงาน บำนาญ อยู่ที่ระดับ 49.1
โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในกลุ่มที่ไม่ได้ทำงาน บำนาญ ปรับตัวดีขึ้นกว่าเดือน ธ.ค.2567 คาดว่าเป็นผลจากการที่ผู้สูงอายุจะได้รับเงินหมื่นจากโครงการของรัฐบาลในช่วงปลายเดือน ม.ค.2568 ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนกลุ่มนี้ สำหรับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังอยู่ต่ำกว่าช่วงเชื่อมั่น โดยอยู่ที่ระดับ 44.2
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในอนาคตว่ามีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ที่อาจส่งผลและช่วยให้การใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ มาตรการดึงดูดการท่องเที่ยว มาตรการขยายความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุน และมาตรการส่งเสริมการส่งออก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังมีความกังวลต่อหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงยืดเยื้อ และนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจส่งผลต่อความไม่แน่นอนของภาคการผลิตและการจ้างงาน อาจเป็นปัจจัยทอนที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน โดยกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างทันท่วงทีและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดความกังวลและเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อไป
<img src="https://newsdatatoday.com//images/banners/PIONEER-720x100.gif" alt="AXA 720 x100" width="680" height="94" dir="ltr" style="margin: 1px 10px 8px 0px; border: 2px inset #c7