พิชัยเซ็นตั้งคณะทำงาน ปราบปรามนอมินี-สินค้าด้อยคุณภาพ ปกป้อง SME-ผู้บริโภค
พิชัย ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว มี “จักรา” รองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ทำงานร่วมกับ 16 หน่วยงาน ทั้งสืบสวน สอบสวน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหานอมินีและสินค้าด้อยคุณภาพ ปกป้อง SME และผู้บริโภคคนไทย เผยเฉพาะนอมินี จะโฟกัส 5 กลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ขนส่ง โกดัง และธุรกิจซื้อที่ดินเพื่อการเกษตร
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว มี ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคณะทำงาน และมีผู้แทนจาก 16 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมศุลกากร กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยคณะทำงานนี้ มีหน้าที่กำกับดูแล เร่งรัด และติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาธุรกิจนอมินีและสินค้าด้อยคุณภาพที่กระทบต่อผู้ประกอบการไทย
สำหรับ การดำเนินงาน จะมีการบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายในทุกมิติ ตั้งแต่การตรวจสอบ สืบสวน ดำเนินคดี ยึดอายัดทรัพย์สิน ไปจนถึงมาตรการทางภาษี เพื่อให้สามารถทำลายวงจรธุรกิจผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 5 ธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่
1.ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้อง 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการให้เช่าที่ดิน 3.ธุรกิจขนส่งทางบก 4.ธุรกิจโกดังสินค้าและโลจิสติกส์ และ 5.ธุรกิจซื้อที่ดินเพื่อการเกษตร ซึ่งมีรายงานว่ากำลังมีการขยายตัวของธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นนอมินีในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออก เช่น ระยองและจันทบุรี ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนเพื่อปลูกทุเรียนเพื่อส่งออกต่างประเทศ
“การปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายและสินค้าด้อยคุณภาพ เป็นวาระสำคัญของรัฐบาล เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยเข้มแข็งขึ้น แต่ยังช่วยให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมสำหรับผู้ประกอบการ SME ของไทย โดยยืนยันว่าการดำเนินงานครั้งนี้ จะเป็นมาตรการที่ต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้น และหวังว่าจะสามารถจัดการปัญหาดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชนในระยะยาว”นายพิชัยกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลโดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและการแก้ปัญหาธุรกิจนอมินีที่ทำให้ผู้ประกอบการ SME ของไทยเสียเปรียบ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย มีตนเป็นประธาน และตนได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ประกอบด้วย
1.คณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ และ 2.คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) มีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานอนุกรรมการ
โดยผลการทำงานที่ผ่านมา กรมศุลกากรสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากสินค้านำเข้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาท ได้สูงถึง 1,500 ล้านบาท และดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมายไปแล้ว 24,626 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,257.24 ล้านบาท สามารถลดการนำเข้าสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซลง 8% หรือเฉลี่ยเดือนละ 3,645 ล้านบาท และสามารถกวาดล้างธุรกิจนอมินีไปแล้ว 851 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 15,121 ล้านบาท